ธุรกิจไทยกับการตลาด

สอนข่าวประชาสัมพันธ์ที่ ม.กรุงเทพ

วันนี้ (1 พย.) ได้รับมอบหมายให้มาถ่ายทอดความรู้ วิชาประชาสัมพันธ์ธุรกิจ ให้กับคลาส คุณค่า ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมเพื่อธุรกิจความงามและแฟชั่น  ระดับมหาบัณฑิต ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยช่วงแรกได้บรรยายถึง 8 จุดหลัก ประกอบด้วย

  • ลูกค้า
  • ผลิตภัณฑ์
  • วัตถุดิบ
  • กระบวนการ
  • บรรจุภัณฑ์
  • บริการ
  • แบรนด์
  • การนำเสนอสู่กลุ่มเป้าหมาย

ที่ผู้ประกอบการสามารถใส่ “คุณค่า” หรือ “นวัตกรรม” ลงไปได้ในระหว่างดำเนินธุรกิจ แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีการส่ง “สาร” ผ่าน “สื่อ” โดยผมได้มอบหมายงานให้ ผู้เรียนออกแบบ ธุรกิจ , ผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับความงามหรือแฟชั่น พร้อมการสร้างแบรนด์ และวิธีนำเสนอผ่านสื่อ ระหว่างนั่งรอให้พวกเธอคิดงานกัน  ผมจึงใช้เวลาสั้นๆ นั่งเรียบเรียงข่าวประชาสัมพันธ์ ให้กับผู้ประกอบการ โครงการ แฟชั่น แอนด์ไลฟ์สไตล์ที่ส่งข้อมูลมาให้  เพื่อประกอบการสอนในช่วงบ่าย….

Clay003

คนรักต้นไม้กับกระถางประกอบได้

ศิรินทร์ อร่ามวงศ์ตระกูล เป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่รักการจัดสวน และชอบปลูกต้นไม้ เมื่อเธอเบื่อจากงานประจำ จึงคิดทำธุรกิจส่วนตัว โดยเลือกจากความชอบ  โดยเริ่มต้นด้วยการทำเครื่องปั้นดินเผา และกระถางต้นไม้ ความที่คลุกคลีอยู่กับต้นไม้จึงรู้ปัญหาหลายอย่างที่สินค้าประเภทเดิมไม่สามารถตอบโจทย์ได้ เธอจึงนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นโอกาสในการสร้างธุรกิจกระถางต้นไม้ที่สามารถปรับเปลี่ยนขนาด หรือประกอบได้ ในแบรนด์ Is clay

ปัญหาอย่างหนึ่งของการปลูกต้นไม้คือ ปริมาณแสงแดดระหว่างวันในทิศเดียวไม่เท่ากัน เธอจึงออกแบบให้กระถางต้นไม้แขวนสามารถปรับระดับเพื่อรับแสงได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้เธอยังต่อยอดออกแบบกระถางต้นไม้ที่สามารถถอดประกอบได้ และใช้งานได้หลายรูปแบบ เช่นเป็นกระถางตั้งโต๊ะ, แบบแขวน หรือกระถางบอนไซ ซึ่งถือเป็น “ความแตกต่าง” และช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายในการปรับเปลี่ยนได้ในอนาคต

ปัจจุบัน Is clay มีการพัฒนารูปแบบของกระถางต้นไม้ โดยคำนึงถึงความหมาย เช่น ทรงมะระที่เน้นเรื่องการปรับธาตุเย็นของร่างกาย รวมถึงการดีไซน์สีที่สามารถนำไปตกแต่งภายในบ้านได้ทุกสถานที่

สนใจชมหรือซื้อกระถางต้นไม้ Is clay ได้ที่ หจก.สมาร์พอทเทอรี่ หรือโทรศัพท์ 089-769-2544

DEmark2012showตัวอย่างนี้เป็นบทความสั้นๆ เพื่อการแนะนำผลิตภัณฑ์ และช่องทางการจำหน่าย สิ่งสำคัญในการส่งข่าวประชาสัมพันธ์ คือต้องคำนึงถึงพื้นที่ของสื่อที่จะลง เนื่องจากปัจจุบัน มีการแข่งขันที่จะลงข่าวประชาสัมพันธ์ของทุกธุรกิจอย่างรุนแรง บรรณาธิการ จะเลือก เนื้อหาข่าวที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน  สิ่งสำคัญคือ “คุณประโยชน์”  และ “ความแตกต่าง” ของสินค้า ที่เจ้าของธุรกิจจะต้องรู้จัก “ดึง” สิ่งเหล่านี้ออกมาและนำเสนออย่างชัดเจน กระทัดรัด และน่าสนใจ

ออกกำลังเท้า

วันนี้ (28 ตค.) มีโอกาสได้พบกับ พว. (พยาบาลวิชาชีพ) รัตนาภรณ์  โดยการแนะนำของน้องจอย (ผู้มีน้ำใจต่อพี่เสมอ) ที่ รพ.รามา เพราะปัญหาเบาหวาน ซึ่งหลังจากตรวจคลำเส้นเลือด เส้นประสาทขา พบว่ายังมีอาการไม่หนัก แต่ก็มีสิทธิที่จะไต่ระดับความรุ่นแรงได้ ดังนั้น พว.รัตนาภรณ์ (น้องกุ้ง) ก็เลยแนะนำท่าบริหารร่างกาย โดยเฉพาะที่เท้าให้ โดยฝึกให้ทำ ซึ่งพอทำเสร็จแล้วก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้น เลยอยากนำท่าบริหารเหล่านี้มาฝาก สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน หรือผู้ที่นั่งทำงานนานๆ เพื่อช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นประสาทได้

ท่าที่ 1  นั่งเก้าอี้ ก้นชิดพนักพิง ยืดหลังตรง ยืดขาทั้งสองข้าง โดยวางบนเก้าอี้อีกตัว หัวนิ้วเท้าตั้งชี้เพดาน พร้อมเหยียดไปข้างหน้า นับ 1-10  (ประมาณ 10 วินาที)

ท่าที่ 2 ต่อจากท่าแรกพยายามดึงฝ่าเท้า เข้าหาตัว นับ 1-10  (ประมาณ 10  วินาที)

foot

ท่าที่ 3 จากท่าแรก พยายามหมุนฝ่าเท้าทั้งสองตามเข็มนาฬิกา (ประมาณ 10 วินาที) จากนั้นหมุนทวนเข็มนาฬิกา (ประมาณ 10 วินาที)

ท่าที่ 4 จากท่าแรก โบกเท้าไปทางซ้ายสลับกับทางขวา ประมาณ 10 วินาที เหมือนบ๊ายบาย

ทั้ง 4 ท่านี้ถือเป็น 1 เซ็ท พยายามทำครั้งละ 10 เซ็ท  วันหนึ่งทำหลังอาหารได้ทุกมื้อจะดีมาก

ปิดท้าย คือท่ายืดกล้ามเนื้อไหล่ นั่งหลังตรง (คล้ายมีกำแพง) ยกมือทั้งสองขึ้น พยายามยืดมือให้สูงที่สุด แขนต้องตึง แต่ละข้างยืดขึ้นสลับกัน โดยใช้กล้ามเนื้อหลัง ทำประมาณ 10 วินาที จะช่วยให้เส้นประสาทมีความยืดหยุ่นดีขึ้น ถ้าทำอย่างต่อเนื่อง จะยืดมือไปแตะปลายเท้าได้

ต้อง ขอขอบพระคุณ พว.รัตนาภรณ์ และน้องจอยมา ณ โอกาสนี้ด้วย ที่ช่วยแนะนำเคล็ดวิชาที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเช่นนี้….

เบาหวาน

Hospitality Objects Thailand (H.O.T.)

H.O.T. 2014 Poster

จุดกำเนิดและภูมิหลัง

Hospitality Objects Thailand (H.O.T) คือแนวคิดการจัดแสดงรูปแบบใหม่ที่ริเริ่มโดยสมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ (D&O) ซึ่งเป็นสมาคมก่อตั้งขึ้น ในปี พ.ศ. 2542 โดยมีสมาชิกมากกว่า 60 องค์กรจากหลากหลายสายงานตั้งแต่สถาปนิกไปจนถึงวิศวกร และผลงานการออกแบบก็มีความหลากหลายเช่นเดียวกันโดยประกอบไปด้วยผลงานการออกแบบภายใน ผลงานกราฟฟิค ไปจนถึงผลงานการออกแบบในงานอุตสาหกรรมและการออกแบบแฟชั่น สมาคมต้องการแสดงผลงานการออกแบบที่มีลักษณะแปลกใหม่ให้ผู้ที่สนใจในระดับนานาชาติ และเพื่อสร้างเสริมแรงบันดาลใจให้นักออกแบบชาวไทยสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพด้วยความปราณีตให้เทียบเท่ามาตรฐานสากลH.O.T. ได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของรัฐบาลไทย

restaurant 01

จุดมุ่งหมาย

H.O.T เป็นสถานที่พบปะสำหรับดีไซน์เนอร์ชาวไทยและองค์กรธุรกิจนานาชาติที่เข้ามาลงทุนและดำเนินกิจการในประเทศไทย โดยเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและกำหนดจุดประสงค์ร่วมกันตามแนวทางของภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศไทย ประเทศในแถบอาเซียน และประเทศอื่นๆในโลก

restaurant 02

วัตถุประสงค์

  • เพื่อจัดแสดงผลงานการออกแบบของไทยที่ล้ำสมัย รวมไปถึงพัฒนาการใหม่ๆและทิศทางการออกแบบของไทย
  • เพื่อรวบรวมสุดยอดแห่งวงการการออกแบบของไทยมาจัดแสดงในพื้นที่เดียวกันและสร้างสรรค์ทิศทางการออกแบบใหม่ในตลาดสากล
  • เพื่อส่งเสริมการค้าและการเงินระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ
  • bolloon 02

สาระสำคัญ

H.O.T. 2014 จะนำเสนอ ผลงานออกเเบบจากบริษัทชั้นนำภายใต้หัวข้อ “FANTASY / FUN-TO-SEE” โดยแสดงให้เห็นว่าผลงานการของแบบจากแบรนด์ชั้นนำของไทยนั้นได้ถูกนำไปใช้ตามโรงแรม ร้านอาหาร สปา รีสอร์ทและธุรกิจการบริการอื่นๆในระดับนานาชาติ

04CONDCEPT Design interior

แผนงานและกิจกรรม

H.O.T. 2014 จะจัดแสดงเป็นส่วนหนึ่งของงาน Bangkok International Gift Fair 2014 & Bangkok International Housewares Fair 2014 (BIG & BIH 2014) ครั้งที่ 38ผู้ร่วมงานจะได้ชมผลงานการออกแบบที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใครและเป็นที่ต้องการทั่วทั้งเอเชียซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของความต้องการสินค้าที่ผลิตขึ้นด้วยความปราณีตของชาวเอเชีย

01CONDCEPT flower

ไฮไลท์ของงานในครั้งนี้อยู่ที่โซนแสดงผลงานการออกแบบที่มีชื่อว่า “FantAsia& Futuristic Hotel Space Design” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า (หน่วยงานภายใต้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ)นอกจากนี้ การจัดแสดงยังรวมไปถึงการจัดแสดงผลงานของนักออกแบบรุ่นใหม่ในโซน Design Showcase ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย (TIDA) และสมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ (D&O)

Slide1

การจัดแสดงในครั้งนี้ยังมีไฮไลท์อื่นๆจากนักออกแบบชาวไทยรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง อาทิ รูปแบบใหม่ของ The Innovation Plus Design Café ผลงานการออกแบบจาก Talent Thai ผลงานการออกแบบจาก  Asia Talent and T-style และผลงานการออกแบบจาก  I-Saarn Objects

สมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ได้ถือโอกาสนี้เปิดตัว “Bistro FantAsia” ซึ่งจะเป็นพื้นที่สำหรับเชฟจากร้านอาหารชั้นนำต่างๆในกรุงเทพมหานครได้แสดงฝีมือการทำอาหารโดยใช้เครื่องครัวที่ล้ำสมัยไม่เหมือนใคร รวมไปถึงภาชนะที่ใช้ในการประกอบอาหารอื่นๆอีกด้วย

งาน H.O.T จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 19-23 ตุลาคม 2557 ณ. อีเว้นท์ฮอลล์ 106 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) ฮอลล์กรุงเทพมหานคร

งานแสดง BIG+BIH “โฉมใหม่…ใหญ่กว่า…ดีกว่า”

 b1กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผนึกกำลังกับสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทยและสมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ จัดเต็ม “งานแสดงสินค้า BIG+BIH ครั้งที่ 38”  “โฉมใหม่…ใหญ่กว่า…ดีกว่า”   ระหว่างวันที่ 19-23 ตุลาคมนี้ ณ ไบเทค บางนา พบไฮไลท์มากมายในงาน โชว์เคสสินค้าใหม่ นับร้อยรายการ และการเปิดตัวครั้งแรกกับสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่มีดีไซน์ ในโซน H.O.T. เพื่อคอยต้อนรับผู้ซื้อจากทั่วโลก ประมาณ 12,000 คน ที่จะสั่งซื้อสินค้า คาดจะมีการซื้อขายประมาณ 3,000 ล้านบาท

 นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  เปิดเผยว่า  งานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (Bangkok International Gift Fair 2014 and Bangkok International Houseware Fair 2014) หรือ ที่คุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี เรียกโดยย่อว่า “BIG+BIH” จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ASEAN LIFE+STYLE” เพื่อสร้างประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกสินค้าของขวัญของตกแต่งบ้านและของใช้ในบ้านที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เพื่อมุ่งเน้นให้เป็นงานระดับนานาชาติ และเพื่อเป็นสื่อนำผู้ซื้อจากประเทศต่างๆทั่วโลกมาพบผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทย ก่อให้เกิดการขยายตัวของการส่งออกของสินค้าดังกล่าว

รูปหมู่1

นางนันทวัลย์ กล่าวว่า ปีนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานประมาณ 600 รายทั้งในไทยและต่างประเทศ (อาทิ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ประเทศจากอินโดจีน) 40,000 ตร.ม. เต็มพื้นที่ไบเทค นำเสนอสินค้าบนพื้นที่ 1,600 คูหา ประกอบด้วย 6 ประเภทสินค้าหลักนับพันรายการ ได้แก่ สินค้าของขวัญ ของที่ระลึก ของตกแต่งบ้านและงานหัตถกรรม สินค้าดอกไม้ ต้นไม้ประดิษฐ์ เครื่องหอมและสบู่ สินค้าเคหะสิ่งทอ ของขวัญและของตกแต่งทำจากผ้า  สินค้าเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน สินค้าเครื่องประดับตกแต่งในเทศกาลคริสต์มาส เทียน สินค้าของเล่น สินค้าของใช้ในครัวเรือน และ สินค้า GREEN AND ECO เพื่อนำมาให้ผู้ซื้อจากทั่วโลกสั่งซื้อ

b2

“งาน BIG+BIH ที่จะมีขึ้นในเดือนตุลาคมนี้  ทางกรมฯต้องการสร้างโอกาสหลายอย่างให้กับผู้ประกอบการ ทั้งเป็นเวทีที่ผู้ประกอบการจะสามารถนำสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ มาแสดงแก่ผู้เข้าชมงานทั้งในและต่างประเทศ  เป็นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง  และยังมีโอกาสได้พบปะฝ่ายจัดซื้อของห้างชั้นนำในประเทศและกลุ่มนักออกแบบ รวมถึงโอกาสทำการค้ากับต่างประเทศและกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่หลากหลาย  อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ผลิตสินค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศ ให้ได้พบกับผู้ซื้อทั่วโลกอีกด้วย” นางนันทวัลย์ กล่าว

b3

ผู้บริหารกรมฯ กล่าวต่อไปว่า งานแสดง BIG+BIH ในครั้งนี้มีไฮไลท์มากมายทั้งของภาครัฐและเอกชนโดยรูปแบบของงานจะเน้นความ “โฉมใหม่…ใหญ่กว่า…ดีกว่า” นำเสนอสินค้าไลฟ์สไตส์ดีไซน์รุ่นใหม่มากมาย โดยผู้เข้าชมงานจะได้พบสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ งานดีไซน์ใหม่ๆ และสินค้าที่ตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะกลุ่มอีกด้วย

b6

ในส่วนของสมาพันธ์ฯ จะมีการเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์ดีไซน์รุ่นใหม่ล่าสุดนับร้อยรายการ ของทุกหมวดหมู่ผ่านรูปแบบโชว์เคสจัดวางอยู่ด้านหน้าสุดของฮอลล์ 101 – 105 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อที่มองหา คอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุดก่อนตัดสินใจสั่งซื้อ

b17

นางนันทวัลย์ กล่าวต่อไปว่าในส่วนของสมาคมฯจะมีการเปิดตัวโซนใหม่ H.O.T. (Hospitality Objects Thailand) บนพื้นที่ 7,000 ตรม.ของ Hall 106  ซึ่งจะนำเสนอเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งดีไซน์ใหม่สำหรับธุรกิจโรงแรมที่อยู่อาศัย ภัตตาคาร  ร้านอาหาร คาเฟ่และผับ ที่ต้องการเน้นบรรยากาศภายในร้านให้โดดเด่น แปลกและใหม่ล้ำเกินใคร  มีการเนรมิต Hall 106 เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ซื้อ/ ผู้เข้าชมงานด้วย

b35

ในส่วนของกรมฯ ได้จัดพื้นที่แสดงและนิทรรศการมากมายตั้งแต่ Design Hall ที่คัดสรรสินค้าคุณภาพทุกหมวดหมู่มารวมกันไว้ที่เดียวกัน ยังมีโซน DEmark เป็นนิทรรศการผลงานการออกแบบยอดเยี่ยม สินค้า 83 รายการที่ได้รับรางวัล Design Excellence Award ปี 2013 และในจำนวนนี้ 33 รายการได้รับรางวัล G-Mark จากประเทศญี่ปุ่น

b19

ท่านอธิบดี กล่าวต่อไปว่า ยังมีนิทรรศการ I+D Style Cafe (T-Style) ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการสินค้านวัตกรรมและสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายด้านนวัตกรรมจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและสมาคมต่าง ๆ โดยจำลองออกมาในลักษณะของร้านค้าต้นแบบ เช่น ร้านกาแฟต้นแบบ มีส่วนจัดแสดงและจำหน่ายสินค้านวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมจากสมาคมอีโคดีไซน์ไทย  รวมพื้นที่ขายสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนวัตกรรมจาก Innovative House

b14

นิทรรศการโครงการพัฒนาสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ ภายใต้ชื่อ  “60+ Elderly Products of Thailand” ซึ่งจะมีการจำลองห้องนอนและห้องนั่งเล่นให้ผู้ซื้อได้มองเห็นภาพเพื่อง่ายในการตัดสินใจสั่งซื้อ และนิทรรศการโครงการพัฒนาสินค้าไลฟ์สไตล์สำหรับธุรกิจโรงแรมและงานแต่งงานในญี่ปุ่น ภายใต้ชื่อ “The Art of Hospitality from Thailand

b21

“เราเชื่อมั่นว่าจุดเด่นไฮไลท์ของงานทั้งหมดที่กล่าวมา รวมไปถึงรูปแบบการจัดงานไฮไลท์ที่แปลกและใหม่กว่าเดิมจะช่วยให้ผู้เข้าชมงาน/ ผู้ซื้อตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการไทยมากยิ่งขึ้น และจะช่วยส่งเสริมการส่งออกสินค้าดีไซน์ไลฟ์สไตส์ไทยไปสู่ตลาดโลกต่อไป โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมในวันเจรจาธุรกิจกว่า 12,000 คน และมียอดการสั่งซื้อกว่า 3,000 ล้านบาท” ผู้บริหารกรมฯ กล่าวเน้น

b27

งานแสดง BIG+BIH จะแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา โดย 3 วันแรกคือ 19-21 ตุลาคม จะเปิดสำหรับการเจรจาธุรกิจเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.  และ 2 วันสุดท้าย (22-23 ตุลาคม) สำหรับขายปลีกให้ประชาชนทั่วไป ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.

b40

ผู้จะเข้าชมงานสามารถลงทะเบียนได้ที่ http://www.bigandbih.com และ http://www.ditp.go.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร สายด่วน DITP 1169

b22

b7 b8 b9 b10 b11 b13 b15 b24 b28 b31 b32 b39

การเดินทางมารับคำปรึกษา

ผู้ประกอบการโครงการ Fashion & Lifestyle ที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารับการปรึกษากับผม ขอเชิญที่อาคารศูนย์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์พระราม 9 ตามแผนที่ด้านล่างนะครับ

map1

กรณีนำรถยนต์ส่วนตัวมาให้จอดตรงประตูทางเข้าร้านขายวัสดุก่อสร้าง โดยบอกว่ามาเรียนอีคอมเมิร์ช จะเสียค่าจอดรถวันละ 50 บาท

map3แล้วเดินมาตามฟุตบาทอีกไม่เกิน 200 เมตรก็จะพบอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นครับ ถ้าเข้าประตูไม่ได้ขอให้โทรเรียก 084-140-6000 (อาจกำลังให้อาหารแมวอยู่)

map

อย่าขับรถขึ้นสะพานข้ามแยกพระราม 9 เพราะจะเลยตึกไปแล้ว ทางสะดวกคือมารถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานีพระราม 9 เดินมาสี่แยกเลี้ยวซ้ายทางที่จะไปดินแดง เห็น ธ.กสิกรไทย ข้ามถนนก็จะเจอแล้ว (เดินไม่เกิน 5 นาที)

study

บรรยากาศการให้คำปรึกษา ด้วยเวลาจำกัด เพียงคนละวันเดียวเท่านั้น ควรส่งคำถาม หรือแนะนำกิจการเบื้องต้นของตนมาให้ผมที่อีเมล thaibusinessmarket@gmail.com ก่อน (สามารถนำสินค้ารวมแล้วมูลค่าไม่เกิน 5000 บาท มาให้วิเคราะห์ได้)

building

Start with Why

ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย

สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม เผยยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย ตั้งเป้ายกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยสู่การเป็นศูนย์รวมการออกแบบแฟชั่นสิ่งทอในปี 2564 และสร้างแบรนด์ไทยระดับโลก ปี 2573 ผ่านแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรม 3 ระยะ คือ ระยะแรกในปี 2559 จัดตั้งให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคด้านการค้าและการจัดหาสิ่งทอแฟชั่น ระยะที่ 2 จัดตั้งให้ไทยเป็นศูนย์รวมการออกแบบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ระดับโลกในปี 2564 และระยะที่ 3 ปี 2573 ผลักดันให้ไทยเป็นผู้นำวัฒนธรรมแฟชั่นและการออกแบบสิ่งทอของโลก

นายปราโมทย์  วิทยาสุข ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เป็นศูนย์กลางดำเนินงานส่งเสริม และพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของประเทศไทยทั้งระบบนายปราโมทย์ วิทยาสุข  ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ดังนั้นการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่นจึงเป็นเรื่องจำเป็นเนื่องจากอุตสาหกรรมสิ่งทอและธุรกิจแฟชั่นไทย ส่งผลต่อการพัฒนาโครงสร้างสู่อุตสาหกรรมใหม่ ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์และองค์ความรู้ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และความได้เปรียบในการแข่งขัน  อย่างไรก็ตาม การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศด้านอุตสาหกรรม จำเป็นต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับศักยภาพพื้นฐานของประเทศ  ตั้งแต่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ตลอดจนอุตสาหกรรมที่ใช้ในการออกแบบและสร้างสรรค์  และก้าวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตสิ่งทอของโลก โดยมีเอเชียเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนสิ่งทอเครื่องนุ่งห่มของโลก และมีอาเซียนเป็นภูมิภาคการผลิตและการบริโภคที่สำคัญในอนาคต อุตสาหกรรมไทยจึงต้องกำหนดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สาขาต่าง ๆ ให้สอดคล้องกัน

นายปราโมทย์  กล่าวต่อว่า ได้กำหนดแผนแม่บทในการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยคู่ขนานไปกับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์  ใน 2 แนวทาง คือ 1. พัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปสู่ชีวภาพเต็มรูปแบบ (Bio-Based) และ 2. พัฒนาสู่เทคโนโลยีขั้นสูงและการสร้างสรรค์ (Hightech & Creative) โดยมีเป้าหมายระยะยาว ปี 2573 คือ มุ่งสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่มีอิทธิพลทางวัฒนธรรมในระดับสากลอย่างยั่งยืน (Sustainability) จากการใช้วัตถุดิบที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงทางชีวภาพ  และ สร้างการรับรู้และยอมรับตราสินค้าไทยในระดับโลก

 ด้าน นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า สำหรับยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสิ่งทอนั้น มีการกำหนดเป็นแผนระยะยาว 15 ปี ตั้งแต่ปี 2559 ถึงปี 2573 เพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ โดยแบ่งเป็นเป้าหมาย 3 ระยะ คือ

นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ

ระยะที่ 1 ในปี 2559 จัดตั้งให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคด้านการค้า การจัดหาสิ่งทอแฟชั่น (Sourcing and Trade from Thailand) เป็นการขยายขอบเขตอุตสาหกรรมสู่ผู้ประกอบการระดับภูมิภาค (ASEAN Business) เพื่อลดอุปสรรคทางการค้าให้เป็นศูนย์กลางการทำธุรกิจของอาเซียน

ระยะที่ 2 ปี 2564 จัดตั้งให้ไทยเป็นศูนย์รวมการออกแบบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ระดับโลก (Design and Development Solution for International Brands) เนื่องจากมีความพร้อมในด้านสาธารณูปโภคและบุคลากรที่เหมาะสมในการตั้งเป็นสำนักงานใหญ่และสำนักงานภูมิภาค ตลอดจนมีการจัดจำหน่ายสินค้าต่างๆ ผ่านไทยไปยังภูมิภาคเอเชีย อาเซียน และเอเชียใต้

และระยะที่ 3 ปี 2573 ผลักดันให้ไทยเป็นผู้นำวัฒนธรรมแฟชั่น และการออกแบบสิ่งทอของโลก (Global Fashion Culture Influence) โดยการนำทุนวัฒนธรรมร่วมสมัยที่มีความเข้มแข็ง บูรณาการร่วมกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การพัฒนาบรรลุเป้าหมายโดยสมบูรณ์ จึงมีการกำหนดตำแหน่งการตลาดของอุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่นไทยให้เป็นประเทศคู่ค้าที่ช่วยสร้างผลกำไรด้วยสินค้าและบริการที่ใหม่อยู่เสมอ โดยมีความเสี่ยงทางธุรกิจต่ำ ผ่านแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาทั้ง 4 ด้าน ดังนี้

  1. การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้เข้มแข็งและยั่งยืน ยกระดับห่วงโซ่อุปทานสู่การออกแบบด้วยเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ทั้งระบบ อาทิ การพัฒนาผู้ประกอบการ จัดตั้งกองทุนปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีและทักษะ ขยายระบบงานในธุรกิจ ฯลฯ
  2. การพัฒนาความสามารถในการตอบสนองตลาดของห่วงโซ่อุปทานที่ขยายสู่ภูมิภาค ขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อาทิ การประกาศพื้นที่ Fashion Industry Zone พัฒนาเขตเศรษฐกิจแฟชั่นครบวงจรที่มีศักยภาพในการเชื่อมโยงกับแหล่งผลิตของภูมิภาค ฯลฯ
  3. การพัฒนาตำแหน่งทางการตลาด สร้างเวทีการออกแบบและการค้าระดับโลกในประเทศไทย โดยใช้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการนำการค้าการลงทุน การผลักดันมาตรฐานผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยเป็นมาตรฐานอ้างอิงระดับภูมิภาค บูรณาการทุนวัฒนธรรมร่วมสมัยด้านแฟชั่นและสิ่งทอ กับผลิตภัณฑ์และบริการวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง อาทิ อาหาร กีฬา ภาพยนตร์ และอื่นๆ ไปยังประเทศในอาเซียน รวมถึงจัดตั้งให้มีงานแสดงสินค้าที่สำคัญของโลกในไทย (World Class Market Place)
  4. การยกระดับโครงสร้างทุนมนุษย์ การพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะหลากหลายด้านความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยี ด้วยการยกระดับกระบวนการพัฒนาผู้สอนในสถานประกอบการ บูรณาการองค์ความรู้ที่ทันสมัยระหว่างภาคอุตสาหกรรมกับภาคการศึกษา โดยการส่งเสริมทุนวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษาและอุตสาหกรรม พัฒนาผู้บริการระดับกลางและการบริหารงานอย่างมืออาชีพ รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมที่ดีแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องและบุคลากรในอนาคต โดยการส่งเสริมบุคลากรต้นแบบในอุตสาหกรรมให้เป็นที่ยอมรับ

 นางสุทธินีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถาบันฯ ได้ดำเนินโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอด้วยเส้นใยต้นแบบและการออกแบบผลิตภัณฑ์สิ่งทอเทคนิค แล้วเสร็จพร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์เส้นใยธรรมชาติสู่อุตสาหกรรมสิ่งทอเทคนิค” (Technical Textiles) ครั้งแรก โดยที่ได้นำเอาวัตถุดิบเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรที่มีปริมาณมากจำนวน 3 ประเภท อันได้แก่ ใยสับปะรด เปลือกผลตาล และใยหมาก มาต่อยอดเป็นวัตถุดิบเส้นใยคุณภาพในอุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยสามารถพัฒนาเส้นใยได้  4 ชนิด คือ “ใยตาล” ด้วยเส้นใยที่มีรูกลวง สามารถใช้เป็นฉนวนกันความร้อนและเย็นได้ดี อีกทั้งยังสามารถคืนรูปได้ทันทีหลังการใช้งาน “ใยสับปะรดแบบลดทอนคลื่นเลียง” โดยการนำเส้นใยจากใบสับปะรดผสมกับเส้นใยพอลิเอสเทอร์ ด้วยคุณลักษณะเส้นใยที่มีความยาว และละเอียด จึงช่วยดูดซับเสียงได้ดี “ใยสับปะรดแบบใหม่” เป็นเส้นใยที่มีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถนำไปใช้ในการผลิตคอมพอ  สิทแบบต่าง ๆ และ “ใยหมาก” เป็นเส้นใยที่มีความหนาแน่นต่ำ น้ำหนักเบา ซึมซับน้ำได้ดีและมีรูพรุน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมการเกษตรและยานยนต์ โดยสามารถพัฒนาได้ทั้งหมด 12 ผลิตภัณฑ์ อาทิ ถุงนอนจากเส้นใยตาล เส้นใยสับปะรดสู่การพัฒนาขึ้นรูปเป็นเรือไฟเบอร์ และเส้นใยหมากสู่วัสดุทดแทนโพลีเอสเทอร์ เป็นต้น

สำหรับ ผลการประกวดออกแบบสิ่งทอเชิงสร้างสรรค์ หรือ Creative Textiles Award 2014 ที่มุ่งผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ ร่วมกับงานวิจัยการพัฒนาเส้นใยจากวัตถุดิบภาคการเกษตรสู่อุตสาหกรรมสิ่งทอ ภายใต้ “โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้วัตถุดิบภาคการเกษตรด้วยการพัฒนาเส้นใยธรรมชาติสู่อุตสาหกรรมสิ่งทอ”  ในแนวคิด Green Textiles และ Innovative Textiles   สำหรับผลิตภัณฑ์สิ่งทอเชิงสร้างสรรค์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ  ผลงาน “ In  the  Wood ”  สร้างสรรค์โดย นายภราดร  เกตุรัตน์  ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท ซึ่งผลงานดังกล่าว ได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลายธรรรมชาติจากลายไม้ ทั้งนี้ จากผลงานที่นักออกแบบรุ่นใหม่ได้ทุ่มเทแรงกายและแรงใจ ในการผลิตผลงานมาตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าศักยภาพของนักออกแบบไทยสามารถก้าวสู่เวทีโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ ประกอบกับมีพลังความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด สถาบันฯ สิ่งทอ จึงมีความยินดียิ่งที่จะสนับสนุนและผลักดันให้นักออกแบบไทยสามารถสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบจากนวัตกรรมเส้นใยธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสู่ภาคอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ รวมถึงเปิดพื้นที่ให้นักออกแบบไทยได้แสดงศักยภาพของตนเองได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขีดความความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยในตลาดโลก

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2713 5492 – 9 ต่อ 739,700 หรือ www.thaitextile.org/tfs2014

Fashion Business Forum

DSCF3300ดร.อรรชกา สีบุญเรือง  อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเปิดงาน

DSCF3317

การบรรยายในช่วงเช้าเป็นเรื่องของ  How to be a super Designer in Thailand โดยมี

บรรดาดีไซเนอร์ แบรนด์แฟชั่น ชั้นนำของเมืองไทย ขึ้นบรรยายคับเวที

DSCF3322

คุณณัฏฐ์ มั่งคั่ง ดีไซเนอร์ แห่งห้องเสื้อ Kloset

DSCF3305คุณหมู พลพัฒน์ อัศวะประภา นายกสมาคม  BFS (Bangkok Fashion Society) และผู้ก่อตั้งแบรนด์ Asava

DSCF3326คุณมิลิน ยุวจรัสกุล เจ้าของห้องเสื้อ Milin

ภานุ

คุณภาณุ อังคะวัต ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ฺGreyhound

DSCF3309ดำเนินรายการโดย คุณสิริมน ณ นคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โพสต์อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย จำกัด

DSCF3335

การสร้างชื่อเสียงของแบรนด์ ส่วนหนึ่งเกิดจากการสร้าง Press Kit หรือสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อให้สื่อต่างๆ ได้เผยแพร่ องค์ประกอบของ Press Kit ที่ดี ควรมี

1. Brand Concept แนวคิดเรื่องของรูปแบบ สไตล์ ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง

2. ข้อมูลของทีมงาน : จบการศึกษา, ผลงาน ฯลฯ

3. Collection Concept เล่าเรื่องการออกแบบชุดที่น่าสนใจ

4. Pack Shot ภาพการถ่ายชุดแฟชั่น แบบต่างๆ แต่ละชิ้น ควรอยู่บนพื้นหลังฉากขาว เพื่อสะดวกในการที่จะนำไปใช้งานได้ทันที

system

การสร้างระบบ ขึ้นอยู่กับ DNA ในแต่ละแบรนด์ สิ่งสำคัญ คือผู้ประกอบการจะต้องมีความเข้าใจการใช้ชีวิตของกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง  ธุรกิจแฟชั่นที่ดีไม่ใช่มีเพียงแค่ดีไซเนอร์เก่งอย่างเดียว ต้องมีทีมงานตลาด และฝ่ายการเงินที่เข้าใจวางระบบจัดการเพื่อสร้างผลกำไร

อ.ช้างช่วงบ่ายเป็นเรื่องของ ศาสตร์ฮวงจุ้ยสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ โดยหมอช้าง ทศพล ศรีตุลา

DSCF3363

ตำแหน่งที่ดีคือ ตำแหน่งมังกร ควรให้มีการเคลื่อนไหว วางสินค้าที่ขายดี จัดร้านให้เด่น

elementธาตุแต่ละธาตุมีความสำคัญ และส่งเสริมกัน สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในแง่ของ “โชค” จากสภาพแวดล้อม (Earth Luck)

ธาตุดินธาตุทองธาตุน้ำ ธาตุไฟธาตุไม้การออกแบบโลโก้ที่ดี ควรมีสีที่เกี่ยวข้องกับ 5 ธาตุ เช่น Google หรืออย่างน้อย 3 ธาตุและต้องเป็นสีที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน

หยินการสร้างพลังหยางเป็นสิ่งสำคัญในแวดวงการค้า

ฮวงจุ้ยความเกี่ยวข้องกันระหว่างทิศทางการตั้งหน้าร้าน กับธาตุที่จะเลือกนำมาออกแบบโลโก้

อช้าง

Thailand Innovation & Design Expo 2014

20140921_102041

Thailand Innovation and Design Expo 2014 เป็นงานรวมสุดยอดนวัตกรรม และการออกแบบเพื่อการค้าระหว่างประเทศ จัดโดย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในงานนี้แสดงความพร้อมและศักยภาพของนักออกแบบ นักคิด นักสร้างสรรค์ทั้งไทยและเทศ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเจรจาการค้ากับผู้นำเข้าต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 18-21 กันยายน ศกนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 

20140921_103001

            กระทรวงพาณิชย์ จัดงานนี้ภายใต้แนวคิด “Creative Convergence / When Innovation Meets Design” หรือ การเชื่อมโยงอย่างสร้างสรรค์ จุดพบกันของนวัตกรรมและงานออกแบบ เพื่อเน้นย้ำความเป็นศูนย์รวมเชื่อมโยงองค์ความรู้ การออกแบบ นวัตกรรมกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงเป็นจุดนัดพบทั้งนักออกแบบ ผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของทั่วโลกและนักออกแบบ ผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีศักยภาพและประสงค์จะเปิดตลาดสู่เวทีโลก ในปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 2 ได้รับ  กระแสการตอบรับจากผู้ประกอบการและนักธุรกิจจากทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างดี ทำให้มั่นใจได้ว่างาน Thailand Innovation and Design Expo 2014เป็นงานที่น่าสนใจและควรค่าแก่การมาชมเพื่อที่จะเรียนรู้นวัตกรรม เทคโนโลยีต่างๆ และนำมาใช้ได้ในด้านการค้าระหว่างประเทศ โดยภายใน งานประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่

1.Innovation Highlightนิทรรศการพิเศษจากหน่วยงานและองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมชั้นนำของประเทศ เช่น

– บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นำนวัตกรรมด้านพลังงาน non-oil มาจัดแสดง ได้แก่ Colorful PV แผงเซลล์แสงอาทิตย์โปร่งแสง สามารถถ่ายเทความร้อน สีสันสวยงาม ติดตั้งหรือใช้แทนกระจกของอาคารเพื่อลดการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศ และ X-Chill Revolution พลังงานความเย็นเคลื่อนย้ายได้ จาก LNG Plant เพื่อสร้างธุรกิจจำหน่ายความเย็นเพื่อปลูกพืชเมืองหนาว

– กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยนำนวัตกรรมเครื่องจักรกลทางการเกษตรมาจัดแสดง ได้แก่ รถดำนา เครื่องทำน้ำหยดเกษตร แทรกเตอร์

– คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำเสนอนวัตกรรมทางการเกษตรที่ช่วยสร้างมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมเกษตร ได้แก่ เครื่องสีข้าวขนาดเล็กแบบใหม่ที่สามารถสีข้าวเปลือกได้ทุกชนิดแม้กระทั่งข้าวสังข์หยด เครื่องปอกฝรั่งเพื่อการผลิตฝรั่งแช่บ๊วย เครื่องขุดย้ายต้นไม้แบบกึ่งอัตโนมัติที่สามารถขนย้ายต้นไม้อย่างสะดวกรวดเร็วและ
ไม่บอบช้ำ

– สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) นำเสนองานวิจัยใหม่ๆ ได้แก่ ครีมลดฝ้า
ซึ่งพัฒนาจากสารสกัดจากดอกบัวสาย เครื่องสำอางจากฟักข้าว เครื่องสำอางจากสารสกัดจากลองกอง

-สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA)นำสินค้านวัตกรรมชั้นนำและสินค้าที่ได้รับรางวัลประจำปี 2557 มาจัดแสดง

– สมาคมค้าไม้อเมริกา สมาคมผู้ส่งออกไม้เนื้อแข็งอเมริกัน และกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกานำ 2นักออกแบบชื่อดัง Patrick Fong และ Jarrod Lim ผู้เชี่ยวชาญการใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการออกแบบมาร่วมบรรยายให้ความรู้

– สมาคมแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย (TACGA) นำผลงานที่มีชื่อเสียงของผู้ประกอบการดิจิตอล
คอนเทนท์ไทย ทั้งการ์ตูนคาแรกเตอร์แอนิเมชั่น วิชวลเอ็ฟเฟ็คและ นิวมีเดียต่างๆ ที่กำลังเป็นกระแสนิยมและยอมรับทั้ง
ในและต่างประเทศ มาโชว์ความสามารถของคนไทยให้เป็นที่ประจักษ์ภายในงานอีกด้วย

tide

  1. International Pavilionsนิทรรศการด้านนวัตกรรมและการออกแบบจากหน่วยงานและองค์กรจากต่างประเทศทั้งเอเชียและยุโรปจำนวน 11 ประเทศได้แก่ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ รัสเซีย อิตาลี โปแลนด์ เดนมาร์ค สเปน ออสเตรีย โดยมีนวัตกรรมสร้างสรรค์เด่นๆ มาจัดแสดง ได้แก่

20140921_101949

  1. Innovation Showcaseนิทรรศการแสดงสุดยอดนวัตกรรมและงานออกแบบที่ได้รับคัดเลือกมากว่า 200ชิ้นจาก 10กลุ่มอุตสาหกรรม ตั้งแต่สินค้าไลฟ์สไตล์/แฟชั่น อาหาร ไปจนถึงอิเล็กทรอนิกส์ เช่น รถเข็นคนพิการอัจฉริยะ (Intelligence Wheelchair) โต๊ะหุ่นยนต์ฟื้นฟูการเคลือนไหวแขนผู้ป่วยทางสมอง (SensibleTab) อุปกรณ์ช่วยสื่อสารผ่านดวงตาสำหรับผู้ป่วยอัมพาต (Senze) ระบบสูบน้ำและผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์แบบลากจูง (PV Mobile) ซึ่งออกแบบเพื่อใช้ผลิตพลังงานไฟฟ้าและเป็นเครื่องสูบน้ำให้กับฐานปฏิบัติการของกองกำลังป้องกันชายแดนและหน่วยทหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สายส่งไฟฟ้าไปไม่ถึง และอื่นๆอีกมากมายที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้มาสัมผัสได้ชื่นชม และเต็มอิ่มกับความรู้จากผลงานที่เกิดจากมันสมองของคนไทย20140921_102248

4.Design Zoneส่วนแสดงงานออกแบบที่รวบรวมสุดยอดผลงานสร้างสรรค์และผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากนักออกแบบไทยและอาเซียน ได้แก่

Design Bazaarตลาดนัดงานออกแบบสินค้านวัตกรรมและอีโคดีไซน์มาไว้ให้ชมและช้อปเป็นจุดที่น่าสนใจและมีการออกแบบเป็นเลิศ มีแบรนด์ไทยที่น่าสนใจ ได้แก่ Osisu, Rubber Killer, Tazana ฯลฯ

I+D Style Caféนิทรรศการพิเศษที่ผสานสองแนวคิด นวัตกรรมและการออกแบบเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ซึ่งจำลองเป็นร้านต้นแบบในสไตล์คาเฟ่ยุคใหม่โดยมีบาเรสต้าหนุ่มรุ่นใหม่ที่เชี่ยวชาญเรื่องกาแฟอย่างเอกเมธ วิภวศุทธิ์ มาปรุงกาแฟและพร้อมเสิร์ฟใหม่สดทุกแก้ว และยังมีการนำนวัตกรรมอาหารพร้อมถ่ายทอดความรู้จากวว. มาจำหน่ายให้ชิมและช้อป เช่น เมล็ดกาแฟ อีกทั้งยังเปิดตัวโปรดักท์ใหม่เป็นครั้งแรกของน้ำลองกองพร้อมดื่มและเจลลี่ลองกองที่ผลิตเป็นพิเศษเฉพาะฤดูนี้เท่านั้น

tide1

Innovation : 100นำเสนอสุดยอด 100นวัตกรรมและงานออกแบบรวบรวมบุคคล ผลงานและแบรนด์
ที่สร้างสรรค์ที่สุดจาก 10คลัสเตอร์อุตสาหกรรมในรูปแบบ Interaction Media

60+ Exhibition : Elderly Products from Thailandจัดแสดงสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ 60+เพื่อเสริมสร้างความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการไทย พัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดใหม่ที่เกิดขึ้น โดยมีผลงาน อาทิ งานดีไซน์สุขภัณฑ์แบบพิเศษเพื่อผู้สูงอายุหรือผู้เคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวก

DEmarkส่วนจัดแสดงผลงานที่ได้รับรางวัลการออกแบบดี ซึ่งได้นำผลงานที่ได้รับรางวัลในปี 2014 มาอวดโฉมครั้งแรกในงานนี้อีกด้วย

Asia Talentsการรวมตัวของ 10 สุดยอดนักออกแบบคลื่นลูกใหม่แนวอีโคดีไซน์จากทั่วเอเชีย ได้แก่ Folded Light Art จากจีน Sarthak Sahil Design จากอินเดีย Hinika By Jarrod Lim จากสิงคโปร์ Alvin T และ Karsa จากอินโดนีเซีย Designtree และ Wigmore & Asquith จากนิวซีแลนด์ Hans Tan จากสิงคโปร์ Inbetween จากเกาหลีและ Masaeco จากฟิลิปปินส์ ที่นอกจากมาโชว์คอลเลคชั่นหรือสินค้าไอเท็มล่าสุดแล้ว ยังมาร่วมพูดคุยให้มุมมองและไอเดียเด็ดๆ ในการเสวนา Asia Talents Talk แก่นักออกแบบไทยและผู้สนใจอีโคดีไซน์ ซึ่งกลับมาเป็นกระแสงานออกแบบสไตล์หัวใจรักษ์โลกในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ยังได้เชื่อมโยงกับเทศกาลBangkok Design Festival เพื่อผนึกกำลังเพิ่มความยิ่งใหญ่ให้กลายเป็นเอ็กซ์โปที่ครอบคลุมและอัดแน่นด้วยนานาสาระสำหรับงานออกแบบ โดยจัดกิจกรรมเพิ่มความรู้สอดแทรกความบันเทิงเชิงศิลป์ภายใต้คอนเซ็ปต์ Connect มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่

– การประชุมนานาชาติ Asia Design and Innovation Conference 2014 ภายใต้แนวคิด Sustainability Innovation: The Evolution of Groundbreaking Thinkers เพื่อแนะแนวการสร้างสรรค์ธุรกิจและพัฒนานวัตกรรมอย่างยั่งยืนพร้อมร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับวิทยากรชั้นนำได้แก่ Natasha Jen นักออกแบบชื่อดังและหุ้นส่วนธุรกิจ Pentagram (New York) แดน ศรมณี ประธานบริหาร Lowe Thailand และผู้แทนสมาคมโฆษณาไทย พรทิพย์ กองชุน หัวหน้าฝ่ายการตลาด Google Thailand, David Thompson ผู้ก่อตั้งร้านอาหารไทยระดับมิชลินสตาร์ Nahm Restaurant ร้านอาหารที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียประจำปี 2014

20140921_142706 (1)

– กิจกรรม Movies on Design จัดฉายภาพยนตร์ดีไซน์ยอดเยี่ยมแห่งปี ที่นำเข้าจากต่างประเทศเพื่อมาฉายรอบพิเศษในงานนี้เท่านั้น นับว่าสร้างความสนใจแก่ผู้รักงานออกแบบและแฟชั่นดีไซน์เป็นอย่างยิ่ง

ร่วมด้วยการสัมมนาต่างๆ ที่อัดแน่นไปด้วยความรู้ด้านการออกแบบและนวัตกรรมใหม่ๆ ได้แก่

– Thai – European Inno Tech Links โดยผู้นำด้านนวัตกรรมจากยุโรป Innovation to Toilet Solution
โดย Chongrak Polprasert

– Futures of Design(er) โดยสมาคมนักออกแบบอุตสาหกรรม

– New Russian Design and Perspective โดย Yuri Nazarov นายกสมาคมนักออกแบบแห่งรัสเซียจะมาเผยข้อมูลและมุมมองในการออกแบบของรัสเซีย

20140921_142203

การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการออกแบบต่างๆ ก็ได้รับการบรรจุอย่างมากมายภายในงาน เพื่อให้ผู้สนใจนวัตกรรมและงานออกแบบได้รับความรู้เชิงลึกและสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ อาทิ เวิร์คชอปกับเครื่องพิมพ์ 3มิติ และปากกา 3มิติที่สามารถสร้างรูปทรงต่างๆ จากจินตนาการกลายมาเป็นโมเดลที่จับต้องได้ เพื่อช่วยเสริมสร้างงานออกแบบให้ง่ายขึ้น รวมถึงกิจกรรมเวิร์คชอปกับ Crumpler แบรนด์ชื่อดังจากออสเตรเลีย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Bag to the Future เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการและนักออกแบบแบรนด์ไทยในการสร้างมูลค่าเพิ่มและต่อยอดองค์ความรู้และนวัตกรรมการออกแบบ พร้อมนำไปใช้ในธุรกิจของตัวเอง โดยมี 11 ตราผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรม

รักแท้มีอุุปสรรคเสมอ